รอคกี มาร์ซีอาโน (
อังกฤษ: Rocky Marciano) ยอดนักมวย
ผิวขาวในรุ่น
เฮฟวี่เวทผู้เป็นตำนานอีกคนหนึ่งในวงการมวยโลก รอคกี มาร์ซีอาโน มีชื่อจริงว่า
รอคโก ฟรานซิส มาเคเจียโน (Rocco Francis Marchegiano) เกิดเมื่อวันที่
1 กันยายน ค.ศ. 1923 ที่เมือง
บร็อกตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ เป็นชาว
อเมริกันเชื้อสาย
อิตาเลียน เมื่อวัยเด็กมาร์ซีอาโนชอบที่จะเล่น
เบสบอลมาก แต่แม้จะมีความสามารถบวกกับร่างกายที่แข็งแกร่ง ก็ยังไม่สามารถเอาดีด้านนี้ได้ เพราะความเป็นหนุ่มเลือดร้อน ที่ชอบละตำแหน่งแคชเชอร์ไปไล่ชกต่อยคู่แข่งอยู่บ่อย ๆ จนโค้ชเอือมระอา ต่อมาเมื่อถูกเกณฑ์ทหาร ที่ทำให้เกิดจุดหักเหสำคัญในชีวิต เมื่อมาร์ซีอาโนเข้าฝึกฝนมวย และค้นพบพรสวรรค์ของตัวเองที่มีพลังหมัดดุดัน จนประสบความสำเร็จอย่างน่าพอใจในการชก
มวยสากลสมัครเล่น กับทัวร์นาเมนต์ของกองทัพอย่างไรก็ตาม หลังจากปลดประจำการในปี
ค.ศ. 1946 และหันมาชกมวยสมัครเล่นบ้างแล้ว มาร์ซีอาโนก็ยังคงชอบการเล่นเบสบอลและหวนกลับไปพยายามคัดตัวกับทีมชิคาโกคลับ แต่เมื่อไม่ได้ดังหวัง ก็ถือเป็นการปิดฉากชีวิตนักเบสบอลของมาร์ซีอาโนไปถาวร ก่อนจะหันมาเอาจริงเอาจังกับการเป็นนักมวย โดยเริ่มชกอาชีพในปี
ค.ศ. 1947 โดยชกครั้งแรกกับ ลี เอพเพอร์สัน ปรากฏว่ามาร์ซีอาโนเป็นฝ่ายชนะ
น็อกไปในยก 3 แต่มาร์ซีอาโนก็หวนกลับไปชกมวยสมัครเล่นอีก จนตัดใจมาชกอาชีพอย่างจริงจังในปี
ค.ศ. 1948ด้วยพลังกำปั้นที่หนักหน่วงถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้มาร์ซีอาโนแจ้งเกิดได้อย่างสง่างาม 16 ไฟต์แรกของการชกอาชีพ เป็นการถลุงคู่ชกแบบไม่ครบยกทั้งหมด แถมในจำนวนนี้มีอยู่ 9 ไฟต์ที่ระฆังหมดยก 1 ยังไม่ทันจะได้ตี นักมวยฝ่ายตรงข้ามก็ลงไปกองกับพื้นเวทีแล้ว มีนักมวยเพียง 2 รายเท่านั้นที่สามารถยืนสู้กับมาร์ซีอาโนได้จนครบยก คือ ดอน โมการ์ด และ โรแลนด์ ลา สตาร์ซา แต่กระนั้นการชกกับทั้ง 2 นี้ ทั้งคู่ก็เกือบจวนเจียนจะเอาตัวไม่รอดในหลาย ๆ ครั้ง และทำให้อันดับของมาร์ซีอาโนขึ้นสู่รองแชมป์โลกและทำให้รอคกี มาร์ซีอาโน ได้รับฉายาว่า "The Brockton Blockbuster" หรือ "The Rock" สมกับชื่อ ร็อคกี ที่เหมือนกับ
เทือกเขาร็อกกีที่ยิ่งใหญ่ใน
ทวีปอเมริกาเหนือ สำหรับแฟนมวย
ชาวไทยให้ฉายาว่า "ไอ้หมัดภูผาหิน"ระหว่างรอชิงแชมป์โลก มาร์ซีอาโนต้องเจอกับการคู่ชกที่เขาลำบากใจมากที่สุด นั่นคือ
โจ หลุยส์ ตำนานแชมป์โลกเฮฟวี่เวทอีกคนหนึ่งที่เป็นขวัญใจของมาร์ซีอาโนในวัยเด็ก โจ หลุยส์ เป็นเจ้าของสถิติป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกได้ยาวนานที่สุดในโลกถึง 25 ครั้ง (ซึ่งยังเป็นสถิติมาจนปัจจุบัน) เมื่อต้องกลายมาเป็นคู่ต่อสู้ โจ หลุยส์ก็เป็นฝ่ายถูกมาร์ซีอาโนถลุงยับพ่ายไปในยกที่ 8 และหลังจากรอมานานถึง 2 ปี รอคกี มาร์ซีอาโน ก็ได้มีโอกาสชิงแชมป์โลกกับ
เจอร์ซี่ โจ วัลค็อทท์ในวัย 29 ปี มาร์ซีอาโนถูก วัลค็อทท์ แชมป์โลกวัย 42 ปี ทำคะแนนนำขาดลอยด้วยความเจนสังเวียนที่ทำให้มาร์ซีอาโนแทบไม่มีโอกาสและส่อแววแห่งความพ่ายแพ้อย่างเห็นได้ชัดตลอด 12 ยก แต่แล้วจู่ ๆ ในยกที่ 13 มาร์ซีอาโนก็ปล่อยหมัดเข้าที่ปลายคางของวัลค็อทท์ ทำให้เจอร์ซี่ โจ วัลค็อทท์ แพ้น็อกไปทันทีในยกนี้รอคกี มาร์ซีอาโน ถูกจารึกในฐานะแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวทร่างเล็ก เพราะว่าเมื่อดูจากรูปร่างแล้ว แทบไม่น่าเชื่อ ด้วยความสูงเพียงแค่ 5
ฟุต 11
นิ้ว หนักไม่ถึง 190 ปอนด์ (เต็มพิกัดรุ่นเฮฟวี่เวท) แถมช่วงชกยังสั้นเพียง 68 นิ้ว อันเป็นช่วงชกที่ถือว่าสั้นที่สุดในบรรดาแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวทเท่าที่เคยมีมาเลยทีเดียว แต่กลับมีพลังหมัดที่หนักปานภูผาหิน และอีกไม่ถึง 8 เดือนต่อมา มาร์ซีอาโนก็เปิดโอกาสให้วัลค็อทท์ได้แก้มืออีกครั้ง คราวนี้ มาร์ซีอาโนไม่ปล่อยให้เสียเวลาการชกมากเหมือนครั้งแรก ก็เร่งปิดฉากน็อกวัลค็อทท์ซ้ำเป็นครั้งที่ 2 ได้ด้วยเวลาเพียง 2 นาทีเศษของยกแรกเท่านั้น หลังจากนั้นมาร์ซีอาโนก็ขึ้นป้องกันตำแหน่งอีก 5 ครั้งชนะรวด กลายเป็นขวัญใจชาวอเมริกัน โดยเฉพาะชาวผิวขาว เพราะถือได้ว่าเป็นนักมวยที่เชิดหน้าชูตาชาวผิวขาวได้ เป็นนักมวยผู้เรียกศรัทธาแฟนมวย สามารถเรียกผู้ชมเต็มสนามได้ทุกครั้งที่ขึ้นชกแต่แล้วหลังจากป้องกันตำแหน่งเป็นครั้งที่ 6 ด้วยการชนะน็อกนักมวยผู้ได้ชื่อว่ามีสถิติการชกมากที่สุดในโลก อดีตแชมป์โลกในรุ่น
ไลท์เฮฟวี่เวท อย่าง
อาร์ชี่ มัวร์ มาร์ซีอาโนก็ประกาศแขวนนวมไปในวัยเพียง 33 ปี ในปี
ค.ศ. 1955 ถือว่ายังอยู่ในวัยฉกรรจ์ หลังแขวนนวม รอคกี มาร์ซีอาโน ได้เดินทางมา
ประเทศไทยครั้งหนึ่งในปี
ค.ศ. 1969 เพื่อมาดู
มวยไทยที่
สนามมวยราชดำเนิน ด้วยการต้อนรับจาก อาจารย์
เจือ จักษุรักษ์ กรรมการมวยระดับโลกของไทยในเวลานั้นรอคกี มาร์ซีอาโน เสียชีวิตอย่างกะทันหันจากอุบัติเหตุที่
เครื่องบินส่วนตัวตกที่เมืองนิวตัน
รัฐไอโอวา ในวันที่
31 สิงหาคม ค.ศ. 1969 ด้วยวัย 45 ปี (อีกเพียง 1 วัน ก็จะครบ 46 ปี) ทิ้งการชกไว้เป็นตำนานของสุดยอดนักมวยหมัดหนักปานภูผาหิน และเป็นนักมวยในรุ่นเฮฟวี่เวทที่ได้แชมป์โลกที่ไม่มีสถิติเสมอใครหรือแพ้ใครแม้สักครั้งเดียวจนกระทั่งแขวนนวม ซึ่งมาร์ซีอาโนมีสถิติการชกทั้งหมด 49 ครั้ง และเป็นการชนะน็อกถึง 43 ครั้งอีกทั้ง ยังเป็นแรงบันดาลใจให้แก่
ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน สร้างเป็น
ภาพยนตร์ในปี
ค.ศ. 1976 เรื่อง
Rocky ซึ่งเป็นเรื่องราวของนักมวยผิวขาวรุ่นเฮฟวี่เวทที่ต่อสู้ทั้งบนเวทีและชีวิตจริงจนกระทั่งได้เป็นแชมป์โลกในที่สุดและในปี
ค.ศ. 2005 รอคกี มาร์ซีอาโน ถูกจัดอันดับให้เป็นนักมวยยอดเยี่ยมตลอดกาลของโลกในอันดับที่ 8